
✒️ เมื่อก่อนผู้เขียนมอง NFT เป็นเพียงศิลปะดิจิทัลที่มีมูลค่า ราคาขึ้นลงตามความสามารถในการดึงดูดผู้คนมารวมกันเป็น community ผ่านการมอบสิทธิประโยชน์และแอร์ดรอป ให้ผู้ครอบครอง ซึ่งขึ้นอยู่กับกระแสนิยม 🤔
พอได้ค้นคว้าคลุกคลีกับ NFT สักพักใหญ่ 🕙 ก็พบว่าสิ่งที่เราเข้าใจเป็นเพียงการตลาดรูปแบบใหม่ของแบรนด์เจ้าแรกๆที่นำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ประโยชน์เท่านั้น 🔍‼️
NFT หรือ Non-Fungible Token ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้แทนทุกสิ่งที่มีอัตลักษณ์ชัดเจน ไม่มีอะไรมาทดแทนได้ ภายในโลกดิจิทัล โดยพื้นฐานแล้วพวกมันเป็นเครื่องมือในการพิสูจน์ความเป็นเจ้าของและรับรองว่าบางสิ่งไม่สามารถถูกแทนที่ได้หรือเป็นของแท้ ความสามารถนี้ขยายไปไกลกว่าแค่ในวงการศิลปะ 🌐
การใช้ NFT เพื่อแสดงตัวตนบนเครือข่าย web 3.0 ที่เป็นส่วนตัวและปลอดภัยเป็นเพียงน้ำจิ้มเท่านั้น 👀
NFT สามารถนำมาใช้เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของวัตถุในโลกจริง ตั้งแต่ งานศิลปะ ของสะสม ของโบราณ ไปจนถึงอสังหาริมทรัพย์ ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้อย่างราบรื่นและตรวจสอบข้อมูลได้โดยไม่ต้องมีคนกลาง 🙅
นอกจากนี้ ตลาดกลาง หรือ Marketplace ส่วนใหญ่ล้วนมอบความยุติธรรมให้แก่ผู้คนในวงการสร้างสรรค์แบบสมน้ำสมเนื้อ นอกจากจะมอบพื้นที่ในการแสดงผลงานที่สามารถเข้าถึงได้ทั่วโลกแล้ว ผู้สร้าง NFT ยังได้รับส่วนแบ่งในทุกการขายที่เกิดขึ้นตลอดไป ซึ่งดำเนินการโดย smart contract ผู้ซื่อสัตย์ ⚙️🧑🔧
ในปัจจุบันวงการต่างๆเริ่มหันมาใช้ NFT มากขึ้น ตั้งแต่วงการบันเทิง ไปจนถึงวงการท่องเที่ยว และอีกหลายบริษัทก็เริ่มนำระบบ NFT มาใช้ควบคุมข้อมูลภายในองค์กร เห็นได้ชัดว่า NFT เป็นอะไรที่มากกว่างานศิลปะและการตลาด พวกมันคือตัวแทนของสิ่งที่มีตัวตนบนโลกดิจิทัลที่อาศัยอยู่ภายในระบบเศรษฐกิจแบบกระจายอำนาจ ซึ่งสามารถนำมาใช้งานได้หลากหลายตามแต่ผู้ใช้งานจะนึกออก 🤩🚀
