
ใบ Certificate ทำหน้าที่เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับบรรดาศิลปิน นักสะสม และนักลงทุน เพื่อใช้ยืนยันความถูกต้องและแหล่งที่มาของผลงานศิลปะชิ้นนั้นๆ 🖼🔍
โดยทั่วไปใบ Certificate จะบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับผลงานอย่างละเอียด เช่น ชื่อศิลปิน ชื่อผลงาน วันที่สร้าง ขนาด เทคนิค เรื่องราวของผลงาน พร้อมลายเซ็นต์ผู้สร้างผลงาน เป็นต้น
ในอดีตใบ Certificate ส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปแบบกระดาษ และสิ่งที่จะสามารถใช้ยืนยันความเป็นของแท้ได้ คือ ลายเซ็นต์ศิลปิน หรือ ตราประทับขององค์กรกลาง เท่านั้น กระดาษที่มีความยากในการเก็บรักษา เมื่อเวลาผ่านไปอาจเสื่อมสลาย ทำให้ยากต่อการพิสูจน์จิตวิญญาณที่แท้จริงที่ศิลปินต้องการสื่อลงไปในผลงาน นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงในการถูกปลอมแปลงสูง
ในปัจจุบันเทคโนโลยีบล็อกเชน ช่วยลบปัญหาที่ยากจะรับมือเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี โดยเราสามารถสร้าง ใบ Certificate รูปแบบดิจิทัลที่ใช้ประโยชน์จากระบบ Decentralized ที่ไม่ถูกควบคุมโดยบุคคลกลางและไม่สามารถดัดแปลงหรือแก้ไขได้ ทำให้สามารถตรวจสอบของปลอมได้ทันที โดยไม่ต้องพึ่งพาผู้เชี่ยวชาญ ความสามารถนี้ทำให้สามารถจัดเก็บข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับงานศิลปะได้อย่างปลอดภัยและโปร่งใส
ประโยชน์ของบล็อกเชนไม่ได้มีเพียงเฉพาะ ใบ Certificate เท่านั้น แต่ยังสามารถเก็บรักษาหรือกอบกู้ความสมบูรณ์ของงานศิลปะที่เสื่อมสลายตามกาลเวลาได้อย่างครบถ้วน
ในปัจจุบันมนุษยชาติกำลังก้าวเข้าสู่โลกดิจิทัลเต็มรูปแบบ เมื่อสิ่งที่แพงที่สุดในโลกคือ “ข้อมูล” สิ่งสำคัญที่สุดก็คือการเก็บรักษา แต่ปัญหาเหล่านี้กำลังจะหมดไปตั้งแต่เทคโนโลยีบล็อกเชนถือกำเนิดขึ้น ‼️
โลกดิจิทัลกำลังจะกลายเป็นชีวิตหลักของคนยุคหลัง ดังนั้นตราบใดที่มนุษยชาติยังไม่ล่มสลาย ใบ Certificate ดิจิทัลก็จะคงอยู่คู่กับผลงานศิลปะตลอดไป 🚀
“ศิลปะยืนยาว…ชีวิตสั้น” คือวลีสั้นๆของ อ.ศิลป์ พีระศรี ที่มีความหมายลึกซึ้ง สะท้อนให้เห็นสัจธรรมของธรรมชาติ และแน่นอนว่าเมื่อ ศิลปะเป็นสิ่งที่ยืนยาวแล้ว สิ่งที่ใช้เป็นเครื่องพิสูจน์หรือ ใบ Certificate ก็ต้องยืนยาวด้วยเช่นกัน
จึงเป็นที่มาของคำว่า
