เทคโนโลยี AI มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา ในปัจจุบันพวกมันสามารถวิเคราะห์งานศิลปะหลายพันรายการ เรียนรู้รูปแบบ เพื่อสร้างภาพที่สวยงามน่าทึ่ง AI สามารถสร้างภาพวาดได้หลากหลายสไตล์ ตั้งแต่ภาพเหมือนจริง นามธรรม ไปจนถึงภาพเลียนแบบสไตล์ของศิลปินที่มีชื่อเสียงได้อย่างแนบเนียน 🎨✨️
แม้ว่าภาพวาดที่สร้างโดย AI จะเป็นพัฒนาการที่น่าสนใจแต่ก็ยังคงเป็นที่ถกเถียงในวงการศิลปะ มีทั้งกลุ่มคนที่ยอมรับว่ามันคือ ศิลปะ เพราะเกิดจากกระบวนการคิดของมนุษย์ แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่ไม่ยอมรับว่ามันคือศิลปะที่ แท้จริง ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ⁉️
1. งานศิลปะที่ถูกสร้างโดย AI ขาดจิตวิญญาณของมนุษย์
ศิลปะแบบดั้งเดิมมักถูกมองว่าเป็นการแสดงออกถึงอารมณ์ลึกๆภายในของศิลปิน ทุกฝีแปรง การเลือกสี และองค์ประกอบคือการแสดงออกถึงการเอาใจใส่ และประสบการณ์ของศิลปิน อย่างไรก็ตาม AI บกพร่องด้านจิตสำนึกและอารมณ์ พวกมันไม่เข้าใจ ความสุข ความเศร้า และ แรงบันดาลใจ เป็นผลให้นักวิจารณ์โต้แย้งว่างานศิลปะที่สร้างโดย AI ปราศจากความลึกซึ้งทางอารมณ์ที่เป็นแก่นแท้ของงานศิลปะตั้งแต่ยุคโบราณ 🤔
2. งานศิลปะที่ถูกสร้างโดย AI ขาดความคิดริเริ่ม ไม่ใช่ผลงานต้นฉบับ
หลายคนแย้งว่าสิ่งที่เกิดจาก AI ไม่ใช่ความคิดสร้างสรรค์ที่แท้จริง เนื่องจากพวกมันสร้างผลงานขึ้นตามข้อมูลที่มีอยู่ในโลกออนไลน์เท่านั้น ไม่สามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ หรือคิดนอกกรอบในแบบที่ศิลปินมนุษย์ทำได้ แม้ว่า AI จะสร้างสิ่งที่ดูแปลกใหม่ แต่ก็เป็นเพียงผลลัพธ์ของการผสมผสานข้อมูลที่มีอยู่และตีความขึ้นใหม่เท่านั้น 🔍
….
แม้ว่าภาพวาดที่สร้างโดย AI อาจไม่สามารถแทนที่งานศิลปะที่มนุษย์สร้างขึ้นได้อย่างสมบูรณ์ แต่ก็แสดงถึงพัฒนาการที่สำคัญในวงการศิลปะ
หนึ่งในแง่มุมที่น่าสนใจที่สุดของ AI คือศักยภาพในการทำงานร่วมกับศิลปินที่เป็นมนุษย์ แทนที่จะมองว่า AI เป็นคู่แข่ง เราควรมองว่า AI เป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ ศิลปินสามารถใช้ AI เพื่อสำรวจสไตล์ใหม่ๆ ทดลองใช้เทคนิคต่างๆ และก้าวข้ามขีดจำกัดผลงานของตัวเอง ในแง่นี้ AI จะกลายเป็นเพื่อนคู่คิดมากกว่าที่จะเป็นเพียงผู้ลอกเลียนแบบ 💡
ตามความรู้สึกของผู้เขียน ✒️
“ศิลปะก็เหมือนอาหาร ขึ้นอยู่กับรสนิยม ไม่มีถูก ไม่มีผิด เราทุกคนมีสิทธิ์ที่จะตีความไปตามความรู้สึก เมื่อความเข้าใจเกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์ของ AI ถูกพัฒนาขึ้น คำจำกัดความงานศิลปะของเราอาจเปลี่ยนแปลงไปก็เป็นได้” 🚀